HAPPENING HAIR & NAIL SPA

Kopchai
4 วันที่ผ่านมา
ยาว 1 นาที

ออกแบบสปาที่ผสานความงามและความผ่อนคลายใจกลางสุขุมวิท 49

Client: Happening Hair & Nail Spa

Location: Town Hall, Sukhumvit 49

Area: 135 SQ.M.

Year: 2025

Scope of Work: Interior Design & Construction Management

จุดเริ่มต้นของการออกแบบสปา Happening กับโจทย์การรีโนเวท

ภายใต้เวลา 60 วัน

โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากประโยคที่เรียบง่ายแต่ชัดเจนของเจ้าของร้านว่า

"เราอยากยกระดับประสบการณ์ลูกค้า... ให้ความสวยมาคู่กับการ Relaxation ในทุกๆ บริการ"

Happening Hair & Nail Spa จึงไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นเพียงร้านทำผมหรือทำเล็บทั่วไป แต่เป็นพื้นที่ที่ใครก็ตามสามารถ “ทิ้งตัว” ลงพักจากความวุ่นวายของวันได้อย่างแท้จริง ร้านตั้งอยู่ที่ Unit 111 โครงการ Town Hall สุขุมวิท 49 ซึ่งมีข้อจำกัดสำคัญคือพื้นที่ขนาด 135 ตารางเมตรและระยะเวลาเพียง 60 วันสำหรับทั้งการออกแบบและก่อสร้าง

ความท้าทายของงานออกแบบสปาครั้งนี้จึงไม่ได้อยู่ที่ความสวยเพียงอย่างเดียว แต่คือการผสานฟังก์ชัน Hair Salon, Nail Spa, Shampoo Zone และ Private Room ให้ทำงานร่วมกันได้ลื่นไหล โดยที่บรรยากาศต้องยังคงความสงบ อบอุ่น และเป็นกันเองตามตัวตนของ Happening

‘แสง’ วัตถุดิบสำคัญที่กำหนดจังหวะของประสบการณ์

การสำรวจพื้นที่ครั้งแรกทำให้เราเห็นชัดว่า “แสงธรรมชาติ” คือศักยภาพที่โดดเด่นที่สุดของร้าน ผนังกระจกสูงด้านหน้าทำให้พื้นที่ดูโปร่งและหายใจได้ลึกกว่าที่คาด เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราตั้งคำถามว่า หากแสงสามารถปรับอารมณ์คนได้ เราจะออกแบบประสบการณ์ให้ลูกค้า Switch Off จากโลกภายนอกได้อย่างไร

แสงจึงไม่ใช่แค่ illumination แต่คือ “ตัวกำกับอารมณ์” ที่เล่าเรื่องตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเปิดประตูเข้ามา จังหวะของแสงที่เปลี่ยนไปในแต่ละโซนจึงกลายเป็นหัวใจของงานออกแบบสปาครั้งนี้

‘Luminous Flow’ คอนเซปต์ที่สร้างประสบการณ์ผ่านจังหวะแสง

คอนเซ็ปต์ “Luminous Flow” มาจากความตั้งใจที่จะให้การเดินผ่านแต่ละพื้นที่ในร้านเป็นเหมือนการเปลี่ยนโหมดความรู้สึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยให้แสงทำหน้าที่เป็นตัวพาอารมณ์จากความสดชื่นไปจนถึงความสงบลึก

Reception Area: โถงต้อนรับถูกออกแบบให้เปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่ และใช้ผนัง Salt Stone เป็นจุดนำสายตา ความอุ่นของแสงสีชมพูอมส้มที่ซ่อนอยู่ด้านหลังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายทันทีที่เดินเข้ามา วัสดุนี้ถูกเลือกเพราะให้ความรู้สึกด้าน Wellness & Healing โดยไม่ต้องใช้การตกแต่งที่ฟุ้งเกินความจำเป็น

Hair Salon: พื้นที่ทำผมต้องการความแม่นยำของแสง แต่ยังต้องให้นั่งสบายต่อเนื่องหลายชั่วโมง เราจึงใช้เส้นโค้งของฝ้าและแสงแบบ indirect เพื่อให้พื้นที่นุ่มตา ไม่แยงสายตา และยังคงความเป็น social space ของร้านได้ดี

Nail Spa: สำหรับพื้นที่ทำเล็บ แสงจะอุ่นลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อก้าวขึ้นชั้นสอง บรรยากาศคล้ายช่วง Golden Hour ที่ทำให้รู้สึกนิ่งขึ้น เหมาะกับบริการที่ต้องใช้สมาธิและการพักผ่อนของลูกค้า

Private Rooms: บนชั้นลอยถูกออกแบบให้ตัดขาดจากเสียงภายนอกด้วยระบบ Double Wall และใช้แสงปรับระดับเพื่อให้ลูกค้าค่อย ๆ เข้าสู่ความสงบที่ลึกขึ้น วัสดุและสีสันเลือกให้มีความนิ่ง เรียบ และสัมผัสที่อบอุ่น

เพื่อให้กลายเป็นพื้นที่ที่ “ได้อยู่กับตัวเองจริง ๆ” ตามที่ร้านตั้งใจ

การจัดวางพื้นที่ที่ทำให้ร้านเล็ก ‘หายใจได้’

พื้นที่ 135 ตร.ม. ต้องรองรับหลายบริการพร้อมกัน การจัด Flow จึงสำคัญมาก เราวาง circulation ให้ลื่นแบบไม่มีคอขวด เพื่อให้ลูกค้าและพนักงานเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

Hair Zone, Nail Zone และ Spa Zone ถูกจัดวางให้เชื่อมถึงกันพอดี ไม่รบกวนกัน แต่ยังมองเห็นความเคลื่อนไหวของร้านอยู่ในสายตา

Shampoo Zone ถูกออกแบบให้เป็นมุมพักที่เงียบและมีแสงนุ่มที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกว่า “ได้ผ่อนคลายจริง ๆ” ขณะรับบริการ ส่วนชั้นลอยซึ่งทำหน้าที่เป็น Private Rooms ถูกจัดให้น้ำหนักเบา ไม่กดทับพื้นที่ด้านล่าง ทำให้บรรยากาศของร้านโดยรวมยังโปร่งและสบายตา

ทุกตารางเมตรของร้านนี้จึงถูกคิดจากคำถามเดียวว่า “สิ่งนี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายขึ้นไหม?”

ผลลัพธ์ของงานออกแบบ และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

หลังจากร้านเปิดใช้งาน เราเห็นลูกค้าที่เดินเข้ามาแล้วหยุดนิ่งสักครู่ก่อนเริ่มบริการ เหมือนปล่อยลมหายใจยาว ๆ เพื่อปรับจังหวะตัวเอง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าจังหวะแสงและบรรยากาศที่เราสร้างทำงานได้จริง

Happening Hair & Nail Spa กลายเป็นพื้นที่ที่ดูพรีเมียมโดยไม่ต้องพยายาม แต่ยังอบอุ่นและเข้าถึงง่าย ฟังก์ชันทุกส่วนทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ทีมงานทำงานสะดวกขึ้น และลูกค้ารู้สึกว่า “อยากกลับมาอีก” ซึ่งเป็นคำชมที่สะท้อนเป้าหมายของโปรเจกต์นี้ได้ดีที่สุด